ตลาดรถ

ประวัติเครื่องจักร

on วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

 

ประวัติเครื่องจักร

          ในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา  การเปลี่ยนแปลงของพลังงานกลที่ถูกเรียกว่า กลไกเรียบง่าย  เริ่มที่จะศึกษาจากมุมมองของวิธีการทำงานที่เป็นประโยชน์  ในที่สุดแนวคิดใหม่ของการทำงานของเครื่องจักรกลก็ชนะไป  ในปี 1586  วิศวกร Flemish ชื่อ Simon Stevin ได้เปรียบเชิงกลของระนาบเอียงและมันก็รวมอยู่กับเครื่องจักรแบบง่ายอื่น ๆ (simple machines)  ทฤษฎีแบบไดนามิกที่สมบูรณ์ของเครื่องจักรแบบง่าย (simple machines) ถูกทำออกมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี  ชื่อ Galileo Galilei ในปี 1600  ใน Le Meccaniche ("On Mechanics")  เขาเป็นคนแรกที่เข้าใจว่าเครื่องจักรแบบง่ายไม่ได้สร้างพลังงาน  แต่เปลี่ยนพลังงาน  กฎคลาสสิกของการเลื่อนแรงเสียดทานในเครื่องจักรถูกค้นพบโดย Leonardo Da Vinci (ปี 1452–1519) แต่ยังคงไม่ได้ตีพิมพ์ในสมุดบันทึกของเขา  มันถูกค้นพบโดย Guillaume Amontons (ปี 1699) และได้รับการพัฒนาต่อไปโดย Charles-Augustin de Coulomb (ปี 1785) 
          เครื่องจักรไฟฟ้า  เครื่องจักรใช้ไฟฟ้าเป็นชื่อทั่วไปสำหรับอุปกรณ์ที่แปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า   แปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลหรือการเปลี่ยนแปลงกระแสสลับจากระดับแรงดันไฟฟ้าหนึ่งไปยังระดับแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน
          เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์  อิเล็กทรอนิคส์เป็นสาขาของฟิสิกส์  วิศวกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวงจรไฟฟ้าซึ่งมีการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า  เช่น หลอดสูญญากาศ  ทรานซิสเตอร์  ไดโอดและแผงวงจรรวม  และที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ

ต้นกำเนิดรถยนต์

on วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

 รถยนต์

          automobile, autocar, motor car หรือ car  เป็นยานยนต์ล้อยางที่ใช้สำหรับขนส่งผู้โดยสาร  ซึ่งยังประกอบเครื่องยนต์หรือมอเตอร์  คำจำกัดความของคำส่วนใหญ่ระบุว่า  รถยนต์ได้รับการออกแบบเพื่อให้ใช้งานได้บนถนนเป็นหลัก  มีที่นั่งสำหรับ 1-8 คน  มักจะมี 4 ล้อ  และถูกสร้างขึ้นสำหรับการขนส่งผู้คนมากกว่าขนส่งสินค้า 
          ในปี 1886 ถือได้ว่าเป็นปีเกิดของรถยนต์ที่ทันสมัย  นั่นคือ Benz Patent-Motorwagen โดย Carl Benz นักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน  Motorized wagons  มาแทนที่รถม้าทันที    โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รถยนต์ได้กลายเป็นสินค้าราคาไม่แพงสำหรับคนจำนวนมากเมื่อ Ford Model T เป็นที่รู้จักในปี 1908
          ในสมัยก่อน  ระยะเวลาหนึ่งรถยนต์ถูกนำมาใช้ในส่วนของไฟฟ้าระบบราง  คือรถยนต์ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวรถจักรขนาดเล็กแต่ยังมีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ  รถยนต์หัวรถจักรเหล่านี้มักจะถูกนำมาใช้บนเส้นทางชานเมืองและระบบรถไฟระหว่างเมือง 
          เป็นที่คาดกันว่าในปี 2010 จำนวนของรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 พันล้านคันเพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านคันในปี 1986  ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน  อินเดียและประเทศอุตสาหกรรมใหม่อื่น ๆ